บลัชออนของ Dior ที่หลาย ๆ คน กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อดีไหม อย่าง บลัชออน Dior Rough Blush
ซึ่งเป็นบลัชออนตัวดังของแบรนด์ที่บิวตี้บล็อกเกอร์หลาย ๆ คน ได้ออกมารีวิวกันเยอะมาก ๆ ด้วยความที่เขาเป็นบลัชออนตัวใหม่ที่มีการดีไซน์เรื่องตลับออกมาได้อย่างเรียบหรูดูน่าใช้งานมาก ๆ อีกทั้งยังมีเฉดสีให้เลือกอย่างหลากหลาย จึงทำให้หลาย ๆ คนเลือกใช้งาน และวันนี้บทความของเราก็จะมารีวิว บลัชออนDior Rough Blush ให้ทุกท่านได้ดูกันว่าสีของเขาจะสวยจริงหรือไม่
รีวิว บลัชออนDior Rough Blush บลัชออนตัวใหม่ ดีไซน์สวย สีชัด
บลัชออนDior Rough Blush บลัชออนตัวใหม่จากแบรนด์ Dior ที่มีหลาย ๆ คนเลือกใช้งาน ซึ่งถึงแม้ว่าราคาของเขาจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่พอตัว แต่เรื่องของคุณภาพแล้วนั้น เราก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่าเข่ทำออกมาได้ดีจริงๆ เลย แล้วจะมีอะไรที่น่าสนใจใน บลัชออนDior Rough Blush ตัวนี้บ้างนั้น เรามาดูไปพร้อม ๆ กัน เลยค่ะ
ตลับ/บรรจุภัณฑ์
มาเริ่มกันที่เรื่องของตัวบรรจุภัณฑ์หรือตัวตลับที่ดีไซน์ออกมากันเลยค่ะ ซึ่งในบลัชออนรุ่น Dior Rough Blush นี้ ก็จะมาในรูปแบบของตลับรูปทรงสีเหลี่ยมผืนผ้า ที่มีสีดำเงาสุดสวยหรู ด้านหน้าตลับจะมีการเขียนชื่อแบรนด์เอาไว้ ให้รู้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Dior ภายในก็จะแยกโซน 2 ช่อง เป็นฝั่งบลัชออนและฝั่งแปรงที่แถมมาในตัว ซึ่งรุ่นนี้เขาก็มีกระจกแถมมาในตัวเลย โดยในตัวของเนื้อบลัชออนนั้นก็จะมีการสลักเป็นอักษณของแบรนด์ไว้เป็นตัว D และ ตัว D กลับด้าน ส่วนแปรงปัดแก้มก็มีความ Luxury ไปอีก เพราะเขามาเป็นแปรงสั้นที่ใช้งานง่ายและยังสลักตัวอักษรที่ด้ามแปรงมาให้ด้วย โดยรวมก็คือเรื่องของความหรูหราดูมีระดับอยู่ในตลับนี้ตลับเดียวเลยค่ะ
ความสวยของสี
ในรุ่นนี้เขาจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 15 เฉดสี ด้วยกัน ซึ่งบอก้เลยว่ามทุกสีผิวสามารถใช้งานได้อย่างแน่นอน และสีที่เราอยากแนะนำสำหรับสาวไทยอย่างเราก็เห็นทีจะเป็นสี Ready เบอร์ 642 ซึ่งหากเรามองจากภายนอกอาจจะรู้สึกว่าสีเขามีความอ่อนไปหน่อย แต่หากลองเอามาทาที่แขนแล้วก็จะรู้ว่าสีของเขาจะมีความอ่อนกว่าในตลับนิดหน่อย ซึ่งสีนี้เป็นสีที่เหมาะกับการแต่งไปเรียน ทำงาน หรือใน Everyday Look ได้เป็นอย่างดีเลย
แต่ถึงแม้ว่าสีของเขาจะมีความเข้มน้อยกว่าในตลับนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดเพราะเรายังสามารถปัดได้อีกในการแต่งครั้งเดียว ซึ่งก็จะช่วยให้เขาติดทนนานทั้งวันเลยทีเดียว และอีกสีที่อยากแนะนำก็จะเป็นสี Rose Montaigne เบอร์ 219 ที่จะเป็นสีชมพูที่มีความเข้มขึ้นมาจากสี Ready นิดหน่อย ซึ่งก็สามารถแต่งได้ในวันธรรมดารวมถึงได้ทุกโอกาสเลยทีเดียว เรื่องความติดทนก็คือเช่นเดียวกัน
Dior Rough Blush เหมาะกับใคร
ในเรื่องของราคาของ Dior Rough Blush นี้ ก็จะมีราคาอยู่ที่ตลับละ 2,000 บาท โดยประมาณ ซึ่งก็เหมาะกับคนในวัยทำงานแล้ว หรือใครที่เก็บเงินพอที่จะซื้อนั้นก็ถือว่ามีความคุ้มค่ามาก ๆค่ะ เพราะการใช้งานของเขาคือมันใช้ได้นานจริง ๆ เพราะเราแต่งหน้าในตอนเช้าครั้งเดียวสีแก้มก็ยังคงติดอยู่ไม่ว่าเราจะเติมหน้าระหว่างวันด้วยแป้งอัดแข็งหรืออะไรก็ตาม สีของเขาก็ยังคงติดอยู่ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะมันคุ้มค่ากับราคาที่เสียไปมาก ๆ
และนอกจากนี้ก็ยังมีสีสันให้เลือกถึง 15 เฉดสี ซึ่งก็เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเป็นบลัชออนDior Rough Blush สีไหนดี เพราะทางแบรนด์เขาเคลมมาว่าบลัชออนรุ่นนี้สามารถเข้าได้กับทุกสีผิวเลยนั่นเอง อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่มีความหรูหรา Luxury ซึ่งก็จะเหมาะกับสาว ๆ วัยทำงานมาก ๆ เลย
บลัชออนDior Rough Blush น่าซื้อไหม
เรื่องของความน่าซื้อนั้นก็ต้องบอกเลยค่ะว่าถ้าใครที่งบถึงงบพอนั้น ซื้อติดไว้สักหนึ่งสีก็ถือว่าดีมาก ๆ เลย เพราะผู้หญิงแน่นอนว่าไม่ได้หยุดที่การแต่งหน้าในลุคเดียว แต่ถ้าอยากได้ลุคที่ไม่ต้องเติมแก้มบ่อย ๆ และสามารถติดทนได้ทั้งวันนั้น ก็แนะนำเป็น Dior Rough Blush นี่แหละค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ บลัชออน Dior Rough Blush ที่เราได้นำมารีวิวให้ดูกัน ซึ่งบลัชออนตัวนี้ก็เป็นบลัชออนตัวดังที่มีคนออกมารีวิวเยอะมาก ๆ เลย แต่ไหน ๆ แล้ว เราก็อยากแนะนำเรื่องของการเลือกซื้อสักนิด เพราะหากคุณเป็นคนที่ชอบสีอ่อน ๆ ปัดแล้วดูใส ๆ เป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลือกสีอ่อนได้ตามใจชอบเลย ในทางกลับกันถ้าคุณเป็นคนที่ชอบสีไปในโทรเข้มนั้น ก็ควรจะเลือกเบอร์ที่ค่อนไปในทางเข้มเลย เพราะสีของเขาในตลับกับที่เอามาปัดมันจะมีความอ่อนกว่าในตลับอยู่นิดหน่อยนั่นเอง
เครดิต
https://static.beautytocare.com/
อ่านต่อที่ เครื่องสำอาง
Credit : แบบบ้าน , เครื่องดนตรีสากล , แม่และเด็ก , เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , มอเตอร์ไซค์